Welcome to Hopebies site where is collecting my hobbies and products which I will thank all you have opportunity to visit my blog and if it has some mistake, I apologized at first and I will improve as your recommend.

Monday, 27 June 2011

Secret Base ~君がくれたもの~ - Ano Hana - Ending

01. secret base ~君がくれたもの~ (10 years after Ver.)

Powered by mp3ye.eu
Song : Secret Base ~君がくれたもの~
Artist :  Kayano Ai (Menma) , Tomatsu Haruka (Anaru) , Hayami Saori (Tsuruko)
Series : Ano hi mita Hana no Namae wo Boku-tachi wa mada Shiranai (Ano Hana) Ending Theme
Translate : Yachiru [Gentle Serenade]



君と夏の終わり 将来の夢 大きな希望 忘れない
Kimi to natsu no owari Shourai no yume Ooki na kibou wasurenai
ฤดูร้อนที่ฉันได้อยู่กับเธอ ทั้งความฝัน อนาคต และ ความหวัง ฉันจะไม่มีวันลืมเลย
10年後の8月 また出会えるのを 信じて
Juunen-go no hachigatsu Mata deaeru no wo shinjite
หวังว่าอีกสิบปีข้างหน้าในเดือนสิงหาคมนี้พวกเราจะได้มาพบกันอีก
最高の思い出を…
Saikou no omoide wo…
ความทรงจำอันล้ำค่า...

出会いは ふっとした 瞬間 帰り道の交差点で
Deai wa futto shita shukan kaerimichi no kousaten de
ในตอนนั้นพวกเราบังเอิญได้มาเจอกันระหว่างทางกลับบ้าน
声をかけてくれたね 「一緒に帰ろう」
Koe wo kakete kureta ne “Issho ni kaerou”
เธอได้ถามฉันว่า “จะกลับด้วยกันมั้ย”
僕は 照れくさそうに
Boku wa terekusasou ni
ทำให้ฉันอายมากๆเลย
カバンで顔を隠しながら
Kaban de kao wo kakushi-nagara
พยายามที่จะเอากระเป๋ามาปิดหน้าเอาไว้
本当は とても とても 嬉しかったよ
Hontou wa totemo totemo ureshikatta yo
แต่ที่จริงแล้ว ฉันดีใจ ดีใจมากๆเลย

あぁ 花火が夜空 きれいに咲いて ちょっとセツナク
Aa Hanabi ga yozora kirei ni saite Chotto setsunaku
อา... ดอกไม้ไฟที่แตกกระจายอยู่เต็มท้องฟ้านั้น มันช่างสวยงามเหลือเกิน
あぁ 風が時間とともに 流れる
Aa Kaze ga jikan to tomo ni nagareru
อา... ในเวลานี้ที่สายลมได้พัดผ่านไป

嬉しくって 楽しくって 冒険も いろいろしたね
Ureshikutte tanoshikutte Bouken mo iroiro shita ne
ทั้งเรื่องที่ทำให้ดีใจ ทั้งเรื่องที่สนุกสนาน การผจญภัยต่างๆ
二人の 秘密の 基地の中
Futari no himitsu no kichi no naka
ของพวกเราในฐานทัพลับแห่งนี้

君と夏の終わり 将来の夢 大きな希望 忘れない
Kimi to natsu no owari Shourai no yume Ooki na kibou wasurenai
ฤดูร้อนที่ฉันได้อยู่กับเธอ ทั้งความฝัน อนาคต และ ความหวัง ฉันจะไม่มีวันลืมเลย
10年後の8月 また出会えるのを 信じて
Juunen-go no hachigatsu Mata deaeru no wo shinjite
หวังว่าอีกสิบปีข้างหน้าในเดือนสิงหาคมนี้พวกเราจะได้มาพบกันอีก
君が最後まで 心から 「ありがとう」叫んでいたこと 知っていたよ
Kimi ga saigo made kokoro kara “Arigatou” sakende ‘ta koto shitte ‘ta yo
สิ่งสุดท้ายที่หัวใจนี้อยากจะบอกกับเธอ อยากจะตะโกนว่า “ขอบคุณนะ” ออกมาดังๆ
涙をこらえて 笑顔でさよなら せつないよね
Namida wo koraete egao de sayonara Setsunai yo ne
แม้ว่าจะต้องกล่าวคำลา แต่ก็จะไม่ร้องไห้ ขอยิ้มออกมาจะดีกว่า
最高の思い出を…
Saikou no omoide wo…
ความทรงจำอันล้ำค่า...

あぁ 夏休みも あと少しで 終わっちゃうからえ
Aa Natsuyasumi mo ato sukoshi de owatchau kara e
อา...วันหยุดในฤดูร้อนที่ได้สิ้นสุดลง
あぁ 太陽と月 仲良くして
Aa Taiyou to tsuki nakayoku shite
อา... ทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่คุ้นเคย
悲しくって 寂しくって 喧嘩も いろいろしたね
Kanashikutte samishikute Kenka mo iroiro shita ne
ทั้งความโศกเศร้า ทั้งความเดี่ยวดาย มีมากมายเหลือเกิน
二人の 秘密の 基地の中
Futari no himitsu no kichi no naka
ที่พวกเรามีในฐานทัพลับแห่งนี้

君が最後まで 心から 「ありがとう」叫んでいたこと 知っていたよ
Kimi ga saigo made kokoro kara “Arigatou” sakende ‘ta koto shitte ‘ta yo
สิ่งสุดท้ายที่หัวใจนี้อยากจะบอกกับเธอ อยากจะตะโกนว่า “ขอบคุณนะ” ออกมาดังๆ
涙をこらえて 笑顔でさよなら せつないよね
Namida wo koraete egao de sayonara Setsunai yo ne
แม้ว่าจะต้องกล่าวคำลา แต่ก็จะไม่ร้องไห้ ขอยิ้มออกมาจะดีกว่า
最高の思い出を…
Saikou no omoide wo…
ความทรงจำอันล้ำค่า...

突然の 転校で どうしようもなく
Totsuzen no tenkou de Dou shiyou mo naku
พอรู้ว่าพวกเราจะต้องย้ายโรงเรียน ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
手紙 書くよ 電話もするよ 忘れないでね 僕のことを
Tegami kaku yo Denwa mo suru yo Wasurenaide ne Boku no koto wo
อยากจะเขียนจดหมายไปบอกกับเธอว่า อย่าลืมเรื่องของฉันนะ
いつまでも 二人の 基地の中
Itsu made mo futari no kichi no naka
และเรื่องราวทุกอย่างในฐานทัพลับของพวกเรา

君と夏の終わり ずっと話して
Kimi to natsu no owari Zutto hanashite
ฤดูร้อนที่ได้อยู่กับเธอได้สิ้นสุดลงแล้ว
夕日を見てから星を眺め
Yuuhi wo mite kara hoshi wo nagame
ได้แต่เฝ้าพระอาทิตย์ตกดินและดวงดาวที่ส่องสว่าง
君の頬を 流れた涙は ずっと忘れない
Kimi no hoho wo nagareta namida wa zutto wasurenai
น้ำตาที่ไหลรินบนแก้มของเธอนั้น ฉันจะไม่มีวันลืมเลย
君が最後まで 大きく手を振ってくれたこと きっと忘れない
Kimi ga saigo made ookiku te wo futte kureta koto kitto wasurenai
จนกว่าจะถึงครั้งสุดท้าย ฉันก็จับคอยจับมือของเธอไว้ จะไม่มีวันลืมเลย
だから こうして 夢の中で ずっと永遠に…
Da kara kou shite yume no naka de zutto eien ni…
เพราะพวกเรามีความฝันที่จะยังคงมีอยู่ไปตลอดกาล...

君と夏の終わり 将来の夢 大きな希望 忘れない
Kimi to natsu no owari Shourai no yume Ooki na kibou wasurenai
ฤดูร้อนที่ฉันได้อยู่กับเธอ ทั้งความฝัน อนาคต และ ความหวัง ฉันจะไม่มีวันลืมเลย
10年後の8月 また出会えるのを 信じて
Juunen-go no hachigatsu Mata deaeru no wo shinjite
หวังว่าอีกสิบปีข้างหน้าในเดือนสิงหาคมนี้พวกเราจะได้มาพบกันอีก
君が最後まで 心から 「ありがとう」叫んでいたこと 知っていたよ
Kimi ga saigo made kokoro kara “Arigatou” sakende ‘ta koto shitte ‘ta yo
สิ่งสุดท้ายที่หัวใจนี้อยากจะบอกกับเธอ อยากจะตะโกนว่า “ขอบคุณนะ” ออกมาดังๆ
涙をこらえて 笑顔でさよなら せつないよね
Namida wo koraete egao de sayonara Setsunai yo ne
แม้ว่าจะต้องกล่าวคำลา แต่ก็จะไม่ร้องไห้ ขอยิ้มออกมาจะดีกว่า
最高の思い出を…
Saikou no omoide wo…
ความทรงจำอันล้ำค่า...

最高の思い出を…
Saikou no omoide wo…

ความทรงจำอันล้ำค่า...

----------------------------------------------------------------------------------------------
เพลง Secret Base -Kimi ga Kureta Mono- เพลง Ending
จากเรื่อง Ano Hi Mita Hana no Namae wo Boku-tachi wa Mada Shirainai (Ano Hana)
เพลงยาวมากเหมือนชื่อเรื่องเลยครับ... หลังได้ดูเรื่องนี้แล้วต้องยอมรับครับว่าชอบมากๆ ความจริงก็ชอบแนวนี้อยู่แล้ว ปกติ(หรือเปล่า?)ผมคิดว่าคงไม่ค่อยมีใครดู anime ที่เป็นแนวดร้าม่านี้เสียเท่าไร เดียวต้องมาปรับอารมณ์หลังดูจบอีก
ตามความคิดของผมแล้ว เรื่องนี้เนื้อหาดีมากและไม่ได้หดหู่หรือเศร้ามากจนเกินไป เหมือนเนื้อเรื่องตอนเริ่มได้เลยจุดที่แย่ที่สุดมาแล้ว เหลือแต่รอลุ้นว่าจะได้พบกันอีกเมื่อไรและจะบอกลากันอย่างไร ความจริงถ้าเขียนมาอย่างนี้ก็พอจะรู้ตอนจบคร่าวๆ แล้วล่ะครับ แต่ไม่คิดว่าจะสั้นแค่ 11 ตอน!!!
ถ้าใครชอบแนวนี้แนะนำให้ไปลองดู ไม่ผิดหวังแน่ครับ
เกี่ยวกับเพลงนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เพลงที่ผมชอบ ถ้าได้ดูคำแปลแล้วมีเนื้อหาและความหมายดีครับ ชวนให้รู้สึกคิดถึงเพื่อนมากๆด้วย เนื้อเพลงที่แปลมาต้องให้เครดิตตามที่อยู่ Blog ด้านล่างครับ

Sunday, 26 June 2011

Black Hole & White Hole



พูดถึงหลุมดำ (Black holes) ใคร ๆ ก็ต้องเคยได้ยินแต่ความเข้าใจเกี่ยวกับหลุมดำนั้น มีอยู่หลายระดับ ในภาพยนตร์เรื่อง Stratrek มีการกล่าวถึงคำว่า หลุมดำ อยู่บ่อย ๆ แต่ concept อย่างเป็นทางการ (หมายถึงทางวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับ) นิยามหลุมดำว่า เป็นอาณาบริเวณในกาลอวกาศ (spacetime) ที่มี สนามโน้มถ่วงสูงมาก ๆ แม้กระทั่งแสง (อนุภาคโฟตอนซึ่งเป็นสิ่งที่เดินทาง ได้เร็วที่สุดในเอกภพ เท่าที่เรารู้จักกัน) ก็ไม่สามารถเล็ดลอดออกมาได้ ทำให้อาณาบริเวณนั้นดูเหมือนเป็นสีดำ แน่นอนว่าเราไม่สามารถเห็นหลุมดำ ได้โดยตรง นักฟิสิกส์แบ่งหลุมดำออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้



1. หลุมดำมวลยิ่งยวด (Supermassive black holes)
เชื่อกันว่าหลุมดำมวลยิ่งยวดอยู่ใจกลางของควอซ่าร์ (Quasars) ซึ่งเป็นใจกลางของgalaxy ที่มีการระเบิดเกิดขึ้น และมันดูดดาวจำนวนนับพันล้านดวง รวมถึงก๊าซและฝุ่น ในอวกาศ หรือแม้กระทั่งดาวเคราะห์เข้าไป ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่าหลุมดำมวลยิ่งยวด ในปี 1994 กล้องโทรทรรศน์อวกาศ Hubble ได้ถ่ายภาพที่ถือว่าเป็นหลักฐานแห่งการค้นพบหลุมดำมวลยิ่งยวด ณ ใจกลางของ galaxy M87

2. หลุมดำที่เกิดจากดาวที่ตายแล้ว (Stellar black holes)
หลุมดำประเภทนี้เกิดจากดาวยักษ์แดง (Red giant stars) ที่มีมวลมากกว่า 3 เท่าของ มวลของดวงอาทิตย์ตามวิวัฒนาการของดวงดาว (Stellar evolution) ส่วนดาวที่มีมวล น้อยกว่านี้ก็จะวิวัฒนาการไปสู่ ดาวแคระขาว (white dwarfs) หรือ ดาวนิวตรอน (neutron stars) หลุมดำประเภทนี้เกิดจากการที่ดาวฤกษ์เผาผลาญพลังงานทุกอย่าง จนหมดสิ้นทำให้เกิดการยุบตัวเป็น singularity ( หมายถึงบริเวณที่เป็นอนันต์และ กฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์ต่าง ๆไม่สามารถใช้ทำนายอะไรได้ถูกต้อง) ซึ่งถือว่าเป็นจุดตรงกลางของหลุมดำ ในทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษของไอสไตน์ singularity จะเกิดขึ้นได้เมื่อดวงดาวได้ยุบตัวจนถึง รัศมีชว๊าซชิลด์ (Schwarzschild radius) หรือ เรียกว่า ขอบเขตแห่งเหตุการณ์ (Event horizon) ซึ่งเป็นขอบเขตที่ไม่มีอะไรสามารถ หลุดพ้นออกมาได้ (ยกเว้นแต่ว่าใครจะทำความเร็วได้มากกว่าความเร็วแสง แต่ความเป็นไปได้ก็ถูกจำกัดโดยทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษของไอสไตน์ที่กล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดที่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าความเร็วแสง คุณจะมีมวลเป็นอนันต์ถ้าคุณเดินทาง ด้วยความเร็วเท่าแสง) หลุมดำประเภทนี้เชื่อกันว่าอยู่ที่กระจุกดาว Cygnus X-1


3. หลุมดำจิ๋ว (Mini black holes)
เชื่อกันว่าหลุมดำพวกนี้ (ขนาดราว 10-15 เมตร) เกิดขึ้นระหว่างการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ (The Big Bang) Stephen Hawking เป็นผู้นำในการเสนอทฤษฎีเกียวกับหลุมดำจิ๋ว ราวต้นทศวรรษ 70 อีกชื่อหนึ่งของหลุมดำจิ๋วคือ หลุมดำแรกเริ่ม (Primordial black holes) ในทฤษฎีนี้ โปรตอนและปฏิโปรตอนอาจเกิดขึ้นได้ รอบ ๆ หลุมดำจิ๋ว ตามหลัก ของการสร้างและการทำลายล้างอนุภาค (Pair production and annihilation) โดยที่ถ้าตัวตัวหนึ่งตกลงไปในหลุมดำอีกตัวก็จะออกมา จากปรากฎการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่า หลุมดำระเหยสาบสูญไป (Evaporate) และหลุมดำก็แผ่รังสีออกมา Stephen Hawking ได้สร้างทฤษฎีเกี่ยวกับการแผ่รังสีของหลุมดำที่รู้จักกันในนาม Hawking Radiation

โดยยึดหลักความไม่แน่นอนของไฮน์เซนเบอร์ก การที่หลุมดำแผ่รังสีทำให้มันมี อายุขัยที่จำกัด (หรือกล่าวว่าหลุมดำก็ตายได้) การสร้างอนุภาคในสูญญากาศต้องใช้ พลังงาน DE = 2mc2 ทำให้อายุขัยของหลุมดำ Dt ~ hbar /2mc2 นอกจากนี้ Hawking ได้พบด้วยว่าการแผ่รังสีของหลุมดำนั้นเป็นแบบ สเปกตรัมเชิงความร้อน (Thermal spectrum) โดยที่ T µ 1/M ( M คือมวลของหลุมดำ T คือ อุณหภูมิของ หลุมดำ ) และอายุขัย (τ) ของหลุมดำมีความสัมพันธ์ τ µ M3 นั่นคือว่าหลุมดำจิ๋วที่มีมวล 1015 กรัม ซึ่งมีอายุขัยน้อยกว่าเอกภพได้ระเหยสาบสูญไปแล้ว สำหรับหลุมดำ ชนิดอื่นเราสามารถละทิ้งความสำคัญของการระเหยสาบสูญได้ (การระเหยสาบสูญ คือการที่ขนาดของหลุมดำลดลงจนถึงระดับขั้นของแพล๊งค์ (Planck ‘s scale) ซึ่งมีขนาดประมาณ 10-35 เมตร ซึ่งเป็นขนาดที่มนุษย์ไม่มีทางสัมผัสได้ และเป็นขั้นที่ ศึกษากันในวิชาแรงโน้มถ่วงควอนตัม หรือ Quantum gravity


มิชิโอะ กากุ เป็นนักฟิสิกส์และนักดาราศาสตร์ระดับนำของโลก ที่เคยเขย่ารากฐานของจักรวาลวิทยามาแล้วหลายครั้ง ตอนแรกนักฟิสิกส์ด้วยกันรับไม่ได้ กระทั่งไม่ถึงสองทศวรรษมานี้เอง จึงได้รับการยอมรับอย่างแทบเป็นเอกฉันท์ นั่นคือการคาดการณ์ทางจักรวาลวิทยาบางประการ ที่มีข้อพิสูจน์บนสมการคณิตศาสตร์ ว่าด้วยทฤษฎีใยมหัศจรรย์ และทฤษฎีแมทริกซ์(String theory / M-theory) และควอนตัม เมคานิกส์ รวมทั้งทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของไอน์สไตน์ คือ การพิสูจน์ได้ว่า จักรวาลมีมิติหลากหลาย สสารดำรงอยู่ด้วยพลังงานที่ให้ความถี่ของการสั่นสะเทือน (vibration) ในแต่ละมิติสั่นหยาบหรือละเอียดแตกต่างกัน และแตกต่างจากจักรวาลที่สั่นสะเทือนอย่างหยาบ ที่มีสี่มิติของเรา เท่าที่พิสูจน์ได้พบว่าอย่างน้อยจักรวาลมี 11 มิติ

มิชิโอะ กากุ บอกว่า มิติที่ 11 เป็นสภาวะนิพพาน(nirvarna) ที่มีความถี่ละเอียดอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับโลกสี่มิติของเรา


มิชิโอะ กากุ พิสูจน์ได้ว่าจักรวาลมีมากมาย(multiverses) อย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยแต่ละจักรวาลจะมีลักษณะเหมือนฟองของเหลว- ที่ยุบๆ พองๆ - หรือให้ฟองขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา มิชิโอะบอกว่าจักรวาลถัดไปอาจอยู่ห่างเพียงหนึ่งมิลลิเมตรจากผิว(brane) จักรวาลของเรา แต่รับรู้ไม่ได้เพราะมันอยู่เหนือมิติ(สี่มิติ) ของเรา
มิชิโอะยังบอกว่า ทุกวันนี้ นักฟิสิกส์ส่วนหนึ่งเชื่อว่า การเกิดใหม่ของจักรวาลนั้น มีความเป็นไปได้หลายทาง ทางแรก จักรวาล(สี่มิติเช่นจักรวาลของเรา) จะเกิดใหม่หลังจากหนึ่งล้านล้านปีนับจากวันนี้ โดยสิ้นสุดลงด้วยความเย็นเยือก(big freeze) ไร้พลังงาน ขณะเดียวกันพลังงานมืด(dark energy) ที่ได้จากการยุบตัวเองลงมาของสสารมืด(dark matter) จะรวมเป็นหลุมดำที่ต่อเนื่องกับหลุมขาว - เพื่อจะให้บิ๊กแบ็งใหม่ - เรื่อยไป หรืออีกเส้นทางหนึ่ง หลุมดำที่อยู่ใจกลางของทุกๆ กาแล็กซี่จะรวมเข้าด้วยกันทำให้จักรวาลหดตัวลงมา(big crunch) เป็นหลุมขาว


Website : http://forum.mthai.com/view_topic.php?table_id=1&cate_id=34&post_id=57267

Summer 2011 Visual Guide and Anime Listing


Here are both the Summer visual guide and anime listings for 2011. Included is everything from new TV series premieres to Blu-ray only episodes. If you discover any missing titles from the list below, please let me know and I’ll add it as soon as I can.


Battery

Coming soon...

Mayday 2011

เมื่อวันที่ 11-12 มิถุนายน ที่ผ่านมาผมได้ไปเที่ยวกับเพื่อนที่ทำงานด้วยกันมา เนื่องจากเป็นการเที่ยวประจำแผนกของผมเอง แน่นอนว่างานนี้มีผู้ร่วมงานเยอะอย่างที่คาดไว้ ผมออกเดินทางจากห้องไปที่ทำงานเพื่อขึ้นรถนำเที่ยว พอรถออกตัวขึ้นมอเตอร์เวย์ได้ไม่นาน แอร์เสียครับร้อนมากๆ ผมแอบคิดอยู่ในใจว่าพวกที่เอารถไปเองโครตโชคดีเลย แต่ก็ยังดีที่มีรถมาเปลี่ยนอาจทำให้กำหนดการเปลี่ยนไปบ้างแต่ก็ไม่เป็นไรเพราะผมอยากจะไปให้ถึงที่พักเร็วๆ



เมื่อไปถึงที่พักพวกที่เอารถมาเองส่วนใหญ่ยังมาไม่ถึง(รวมถึงเพื่อนผมด้วย) นอนรอในห้องสักพักฝนเริ่มตกบรรยากาศมันชั่งน่า.....นอนจริงๆ พอฝนเริ่มหยุดตกผมก็ออกไปเดินดูวิวทิวทัศน์รอบๆ เพื่อนผมก็มาพอดี หลังจากนั้นก็ไปทำกิจกรรม(เล่นกิจกรรม) มีอะไรให้เล่นเยอะดีเหมือนกัน พอเล่นจนจบแล้วพวกผม(กับเพื่อนๆที่ทำงาน)ก็ไปถ่ายรูปหลัง resort จะเรียกว่าหลังหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่าตามนั้น


ด้านหลังเป็นที่เลี้ยงสัตว์น่ะครับ มีแพะ วัว นกกระจอกเทศ กระต่าย เท่าที่เห็นน่ะนะ พวกผมก็ไปถ่ายรูปกันที่นั้นอยู่นานเหมือนกัน ถ่ายกันจนเย็นเลยละครับ
และจากนั้นก็กับฐานที่มั่นเพื่อร่วมงานเลี้ยง แน่นอนครับผมเม้าตอนจบงาน....ToT


รุ่งเช้าของอีกวันเพื่อนผมออกไปถ่ายรูปกันตอนเช้าแต่ผมยังมึนอยู่เลย ผมไม่ได้ไปกับเพื่อนๆ นอนต่อ อาบน้ำ ทานข้าว เพื่อเตรียมกลับ พอดีเพื่อนผมจะออกเดินทางก่อนเลยชวนผมไปตระเวนถ่ายรูปตามที่ต่างๆ ก่อนกับครับ ก็สนุกดีอีกแบบได้ไปหลายที่เลยแหละครับ

 

ก่อนกลับพวกเราก็ทานอาหารกลางวันและซื้อของฝากกัน พอได้ขึ้นรถเท่านั้นแหละหลับกันหมด สงสารคนขับรถคงไม่มีคนคุยด้วย --'
สุดท้ายก็แยกทางกันที่บริษัทครับส่วนผมก็กลับบ้านพร้อมกับรถพี่ที่แผนกอีกคนครับ

ภาพของทุ่งดอกไม้กับไร่องุ่นครับ

Hongal

Contact us

wuttinan_p@yahoo.com

Shocks

Coming soon....



Ano Hi Mita Hana no Namae wo Bokutachi wa Mada Shiranai - 11 (Final)

Episode 11 Final – The Blooming Flower of That Summer – あの夏に咲く花 (Ano natsu ni saku hana)
Man, this had to be one of the most emotional final episodes I’ve seen in a long time. It wasn’t really the best ending episode I’ve seen by any means, but it did wrap up almost all of the loose strings quite well. And did I mention it was emotional? Seriously, there was a ridiculously large amount of unnecessary crying in this episode, though it was at the same time extremely heartbreaking (and definitely one heck of a tearjerker).
We finally get to see the Super peace busters move on with their lives, as well as see a lovely (yet saddening) farewell between Menma and the rest of the gang.

 

What I find a bit funny here is that my predictions in my episode 10 post turned out quite a bit more accurate than I had anticipated. I mentioned previously that everybody was only thinking of themselves, while they never actually were being true friends with Menma and genuinely wish the best for her. Well, this episode elaborates on just that, where everybody pretty much outright confesses that they wanted Menma to move on because it would benefit themselves, and not because they were thinking for her sake. Everybody did realize that they needed to have a genuine chat with Menma, as opposed to selfishly think for themselves.
In the end, though, Menma’s wish was accomplished (albeit, the fireworks were pretty much unrelated). As it was hinted at before, Menma had actually made a promise with Jinta’s mother, which ended up being her “real wish”.

 
 
 

The really heartbreaking moments, though, were almost definitely towards the end. What stunned me at first is how, when Jinta reached the secret base, he lost the ability to see Menma as well. Jinta’s desperate, frantic screams really got me worried. But the icing on the cake here was how Menma then declared that they were playing “hide and seek”, all while Menma wrote down her final thoughts for everybody. Seeing everybody tear up and cry felt a bit unnatural (especially for Tsuruko and Poppo), but when everybody is finally able to see Menma in her final moments while was delicately leaning on a tree, there was a powerful “punch” to the scene. It really hit the mark on being powerfully emotional and heart-rending, with everybody’s desperate “Mou ii kai!” chant and “Menma, Mitsuketa!” practically moving me to tears. Hearing everybody’s heartfelt goodbyes, all while Menma finally reveals her own sad yet hopeful feelings to the group, was truly a beautiful scene.

 
 

And not long afterwards, we saw Menma’s smiling figure fade away into the morning sun.
In the end, this final episode played everything very safe. All of the characters managed to truly confront and overcome their problems, while finally being able to wish Menma a genuine, happy farewell. The crying and drama in this episode felt rather forced at times, but it was still nonetheless very moving. The finale was, admittingly, disappointing in comparison to what I was hoping for, but it may be because I thought the ending would be less predictable than it turned out to be. The hide-and-seek twist towards the end was great though, and really got the emotions flowing. I personally loved how the hide-and-seek drama unfolded, and it made for an especially memorable farewell between the Super peace busters, and the “Flower seen that day”.

The Super Peace Busters are always good friends - 超平和バスターズはずっとなかよし(Chou heiwa basutaazu wa zutto nakayoshi)